เริ่มแล้ว! เปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปบ้าน หน่วยละ 2.20 บาท ยาว 10 ปี

เริ่มแล้ว! เปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปบ้าน หน่วยละ 2.20 บาท ยาว 10 ปี

กกพ.เห็นชอบประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จากหลังคาบ้าน หน่วยละ 2.20 บาท ระยะยาว 10 ปี โดยเปิดให้ประชาชนยื่นคำขอจำหน่ายได้แล้ว

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)  เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบประกาศการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ โดยรับซื้อต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 สอดรับกำหนดเป้าหมายปีละ 10 เมกะวัตต์ สำหรับพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 5 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5 เมกะวัตต์

โดยรับซื้อไฟฟ้าที่ 2.20 บาทต่อหน่วย ระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตามสัญญา (SCOD) ภายใน 270 วัน นับแต่วันที่ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

ความสะดวกให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการโดยมีสาระสำคัญของประกาศดังนี้

1. ไม่จำกัดเวลาการยื่นคำขอขายไฟฟ้า แต่ยังคงเน้นกระบวนการพิจารณาคำขอขายตามเวลาที่กำหนด และผู้เสนอขายไฟฟ้าส่วนเกินจะต้องดำเนินการติดตั้งและตรวจสอบระบบให้แล้วเสร็จภายใน 270 วัน นับจากวันลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และหากดำเนินการไม่ทันตามกำหนดให้ยื่นหนังสือถึงการไฟฟ้า แจ้งความพร้อมเพื่อขอขยายเวลาได้อีก 90 วันก่อนยกเลิกสัญญา

2. กรณีคำขอขายไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาในปี 2564 ให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายแจ้งผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าดำเนินการต่อตามขั้นตอนตามประกาศฉบับนี้

3. กรณีคำขอขายที่ผ่านการพิจารณาแล้วในปี 2564 และยังไม่ถูกยกเลิกให้การไฟฟ้าแจ้งผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้ามาลงนามสัญญาภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้ง

เลขา กกพ.  กล่าวต่อว่า การส่งเสริมให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เองโดยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในบ้านที่อยู่อาศัย เพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และสามารถนำส่วนที่เหลือมาขายเข้าระบบได้  โดยเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผันผวน และมีราคาสูงจากผลของภาวะวิกฤตการณ์ราคาพลังงานโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถยื่นคำขอจำหน่ายไฟฟ้า ณ กฟน. และกฟภ. ได้ทั่วประเทศ ตามพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ สำนักงาน กกพ. (www.erc.or.th)

 

ที่มา   : https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/172725

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *