กกพ.ประกาศชื่อโรงไฟฟ้าชุมชน ที่ผ่านการพิจารณาอุทธรณ์ด้านเทคนิค พบมีโครงการผ่านอุทธรณ์เพิ่มอีก 74 ราย จากเดิมผ่านแล้ว 95 ราย รวมมีโครงการที่เข้ายื่นซองประกวดราคา 169 โครงการ ด้าน CWT-UAC-CV-TPCH เฮ! มีโครงการผ่านอุทธรณ์เพิ่มอีก 15 แห่ง ลุ้นเปิดซองราคา 20-23 ก.ย.นี้
*** กกพ. เผยมี 169 รายเข้าชิงโรงไฟฟ้าชุมชนฯ
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ กกพ. ได้ให้สิทธิ์ผู้ที่ไม่ผ่านข้อเสนอทางเทคนิคโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาต่อ กกพ. และได้มีผู้ยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาทั้งสิ้น 118 ราย
โดย กกพ. ได้พิจารณาแล้วมีผู้ผ่านการพิจารณาอุทธรณ์ จำนวน 74 ราย ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคาร่วมกับผู้ที่ผ่านข้อเสนอทางเทคนิคก่อนหน้านี้ 95 ราย รวมเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคารวมทั้งหมด 169 ราย ต่อไป
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคา โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) กำหนดให้มีการเปิดซองพิจารณาด้านราคา ในวันที่ 20 ก.ย.64 และเสนอต่อ กกพ. พิจารณาในวันที่ 22 ก.ย.64 โดยสำนักงาน กกพ. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 23 ก.ย.64 ผ่านเว็บไซต์ www.erc.or.th
*** CWT คว้า 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 36 เมกะวัตต์
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่า ขณะนี้บริษัทได้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาอุทธรณ์ผ่านข้อเสนอทางเทคนิคโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) เพิ่มอีก 10 โครงการ จากที่ยื่นอุทธรณ์ทั้งหมด 11 โครงการ ส่งผลให้ บริษัทมีโรงไฟฟ้าผ่านคุณสมบัติฯ รวมทั้งสิ้น 12 โครงการ จาก 13 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 36 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่า จะชนะการประกวดราคาในครั้งนี้ 1 ใน 3 จากทั้งหมด หรือมากกว่า 4 โครงการ โดยบริษัทเตรียมเม็ดเงินสำหรับการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท
“ทั้งหมดที่เรายื่นไปคือ 13 โครงการ ซึ่งที่ผ่านมา ผ่านมาแล้ว 2 และบริษัทยื่นอุทธรณ์ไปอีก 11 โครงการ ซึ่งในวันนี้ผ่านอีก 10 โครงการ ส่วนอีก 1 โครงการก็จะตกไป หลังจากนี้ จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคาร่วมกับผู้ที่ผ่านมาข้อเสนอทางเทคนิคก่อนหน้านี้ โดยเราก็จะทำให้ดีที่สุด”นายวีระพล กล่าว
*** CV หวังชนะ 6 โครงการ ทุ่มเม็ดเงินลงทุน 2,000 ลบ.
นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ระบุว่า การยื่นอุธรณ์ด้านเทคนิคโรงไฟฟ้าชุมชน บริษัทผ่านจำนวน 2 โครงการ รวมการติดตั้งจำนวน 9.5 เมกกะวัตต์ (MW) จากทั้งหมดที่ยื่นอุธรณ์ไป 3 โครงการ
โดยโครงการที่ผ่านอุธรณ์ ได้แก่ บริษัท โคลเวอร์ กรีน 5 จำกัด การติดตั้งรวม 3 MW กำหนดขายไฟฟ้า 2.8 MW ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในจังหวัดนครพนม และบริษัท โคลเวอร์ กรีน 8 จำกัด การติดตั้ง 6.5 MW กำหนดขายไฟฟ้า 6 MW ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในจังหวัดอุดรธานี
ด้านโครงการที่ไม่ผ่านการยื่นอุธรณ์คือ บริษัทโคลเวอร์ กรีน 3 จำกัด การติดตั้ง 6.5 MW กำหนดขายไฟฟ้า 6 MW ในจังหวัดหนองคาย ซึ่งบริษัทไม่ผ่านการยื่นเทคนิค เนื่องจากการยื่นเอกสารบางอย่างไม่ครบ
ส่วนโครงการที่ผ่านการยื่นเทคนิคในรอบแรกได้แก่ บริษัท โคลเวอร์ กรีน 2 จำกัด จังหวัดพิษณุโลก , บริษัท โคลเวอร์ กรีน 4 จำกัด จังหวัดลำปาง , บริษัท โคลเวอร์ กรีน 6 จำกัด จังหวัดพิจิตร และบริษัท โคลเวอร์ กรีน 7 จำกัด จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งแต่ละโครงการเป็นการติดตั้งแห่งละ 6.5 MW และกำหนดจะขายไฟฟ้าโครงการละ 6 MW
ซึ่งโครงการที่ผ่านเทคนิคมีทั้งหมดรวม 6 โครงการ หรือกำลังผลิตติดตั้งรวม 35.5 MW และกำหนดการขายไฟรวม 32.8 MW คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะผ่านขั้นตอนการประกาศราคาและชนะทั้ง 6 โครงการ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวะกรรม ซึ่งต้นทุนแต่ละโครงการค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ
“เรามีความเชี่ยวชาญด้านวิศวะกรรม ต้นทุนที่ทำแต่ละโครงการจะต่ำกว่าที่อื่น ซึ่งราคาที่เราส่งประกวดไปน่าจะเป็นระดับราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งเรามั่นใจในทีมเทคนิควิศวะกรรมของเรา เราพยายามทำต้ยนทุนให้ดีที่สุด”นายเศรษฐศิริ กล่าว
*** UAC เผยผ่านการอุทธรณ์โรงไฟฟ้าชุมชนฯ 2 โครงการ
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ระบุว่า การประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาผลอุทธรณ์โรงไฟฟ้าชุมชนฯของกกพ. รอบนี้มีโครงการของบริษัทผ่านเข้ารอบอีก 2 โครงการ จากเดิมที่มียื่นอุทธรณ์ทั้งหมด 4 โครงการ ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันมีโครงการของบริษัทที่ผ่านเกณ์ด้านเทคนิคแล้วรวมจำนวน 4 โครงการ ซึ่งคิดเป็นขนาดกำลังการผลิตรวม 12 เมกกะวัตต์ (MW)
โดยหลังจากนี้ทั้ง 4 โครงการ จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาข้อเสนอทางด้านราคาต่อไป ซึ่งคาดว่ากกพ.จะเปิดรายชื่อในวันที่ 20 ก.ย.นี้ และประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 23 ก.ย.64
ทั้งนี้ โครงการที่ได้เข้ารอบบริษัทมั่นใจเต็มที่เกือบ 100% ว่าจะชนะประมูล เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญการทำโรงไฟฟ้าชีวภาพจากพืชพลังงานและระมัดระวังการประมูลด้านราคาตามที่บริษัทสามารถดำเนินการได้
แม้จะมีข้อเสียเปรียบจากข้อกำหนดที่เปิดช่องให้เอาน้ำเสียหรือของเสียมาใช้ร่วมกับพืชพลังงานได้ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ซึ่งทำให้ต้นทุนโรงไฟฟ้าแบบอื่นๆต่างกัน แต่ก็ต้องรอผลที่ออกมาว่าจะเป็นอย่างไร
ขณะที่คาดว่าหากบริษัทชนะทั้ง 4 โครงการจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในวิสัยที่บริษัทบริหารจัดการได้ เนื่องจากมีการเก็บสภาพคล่องไว้จำนวนมากและยังมีสถาบันการเงินที่พร้อมสนับสนุน
อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการที่ไม่ผ่านการอุทธรณ์บริษัทคงไม่ไปทำอะไร เพราะได้เตรียมเอกสารเข้าไปชี้แจงหมดแล้ว แต่คาดว่าจะติดปัญหาในเรื่องของผังเมือง ซึ่งเราก็รับฟังและรอดูว่าท่าทีว่าจะมีใครโต้แย้งผลการอุทธรณ์รอบนี้อีกหรือไม่
*** TPCH จ่อออกหุ้นกู้ 1,500 ลบ. รองรับการลงทุน
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ระบุว่า บริษัทมีโครงการที่ผ่านการยื่นอุทธรณ์เพิ่ม 1 โครงการ จากที่ยื่นไปทั้งหมด 2 โครงการ สำหรับที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นประมูลทั้งหมด 10 โครงการ กำลังการผลิตรวม 36 เมกะวัตต์ ทั้งการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล และ ชีวภาพ
โดยกกพ. ประกาศให้โครงการของบริษัทผ่านจำนวนทั้งสิ้น 8 โครงการ แบ่งเป็น การผลิตประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล 7 โครงการ และ การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ 1 โครงการ
สำหรับทั้ง 8 โครงการที่ผ่านมาคุณสมบัติในรอบแรก ประกอบด้วย 1.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 9 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ 2.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 10 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลลุโบะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส 3.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 11 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลมาโมง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส 4.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 14 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
5.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 15 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 6.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 18 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลลานดอกไม้ตก อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร 7.บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 19 จำกัด ที่ตั้ง ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี และ8.โครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ บริษัท พี พี แอล พาวเวอร์ จำกัด ที่ตั้ง ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
“รอบแรกเรายื่นไป 10 โครงการ ผ่าน 8 โครงการ เราเลยยื่นอุทรณ์ 2 โครงการที่ไม่ผ่านรอบแรก และ วันนี้ผลออกมาเรายื่นอุทรณ์ผ่านไป 1 โครงการ และ ตกไป 1 โครงการ ซึ่งทำให้เรามีโครงการที่ผ่านทั้งสิ้น 9 โครงการ กำลังการผลิตรวม 30 MW”นายเชิดศักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการที่ผ่านคุณสมบัติแล้ว บริษัทพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่อง โดยบริษัทมีการออกหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งรองรับการลงทุนในโครงการดังกล่าว และ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในช่วง 1-3 ปีต่อจากนี้
“ชื่อบริษัท เอเชีย เอรา วัน มาจากคอนเซ็ปต์ในภาษาอังกฤษ Asia Era One ซึ่งมีความหมายสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นศูนย์กลางของเอเชีย ที่เชื่อมผู้คน สังคม และประเทศเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประเทศไทยสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตของความเจริญรุ่งเรือง ในขณะเดียวกัน ชื่อในภาษาไทย เอเชีย เอรา วัน ยังสื่อความหมายพ้องเสียงกับช้างเอราวัณ พาหนะเทพบุตรของพระอินทร์ ที่มีพละกำลัง และเป็นสัญลักษณ์ของการกระทำดี และสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย” นายสฤษดิ์ กล่าวเสริม
นายสฤษดิ์ ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของบริษัทฯ ต่อไปอีกว่า บริษัท เอเชีย เอรา วัน มีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางแห่งเอเชีย ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่แห่งโอกาสและความเจริญรุ่งเรือง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีการเดินทางรถไฟความเร็วสูงระดับโลกที่มุ่งมั่นเชื่อมประเทศไทยกับเอเชียให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อความภูมิใจของคนไทยทุกคน
ที่มา www.efinancethai.com